วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หนองคาย-หลายพื้นที่ของจังหวัดหนองคายจัดงานประเพณีลอยกระทงเสริมสร้างความสามัคคีและอนุรักษ์แหล่งน้ำธรรมชาติ

วันที่ 6 พ.ย. 2557 ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงวัดมีชัยท่า เขตเทศบาลเมืองหนองคาย นายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย พร้อมคณะผู้บริหารร่วมลอยกระทงกับประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยว โดยในปีนี้เทศบาลเมืองหนองคายจัดงานลอยกระทงภายใต้ชื่องาน “สีสันนทีโขง” ซึ่งในปีนี้ทางเทศบาลเมืองหนองคายได้เน้นให้ประชาชนนำกระทงที่ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ มาลอยกระทง มีประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวมาร่วมลอยกระทงเป็นจำนวนมากเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว เป็นการส่งเสริมประเพณี วัฒนธรรมอันดีงาม ทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยว
ที่บริเวณหนองนาผาย หมู่ 5 ต.โคกคอน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายบุญกร บุตรศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกคอน นำประชาชนชาวตำบลโคกคอนร่วมกันลอยกระทง ซึ่งนอกจากการร่วมใจกันลอยกระทงแล้วยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่มาเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชุมชนอีกทั้งยังมีการอนุรักษ์แหล่งน้ำของชุมชน ทั้งการปล่อยพันธ์ปลา การแข่งขันกีฬาพื้นบ้านมหาสนุก เช่น การแข่งขันพายเรือกีบ สร้างความสนุกสนานและความสามัคคีของคนในชุมชน อีกทั้งยังมี การแสดง แสง สี เสียง ประกอบจินตนาการ “บรรพวิถีชีวีอีสาน แหล่งโบราณคดี บ้านโคกคอน ถวายพระพรวงศ์จักรีนฤบดินทร์” ให้ผู้มาร่วมงานได้ชมเป็นคืนที่สองอีกด้วย
ส่วนที่ ริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านปากโสม-ลำภูพาน นายมงคล เพ็งสมภาร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผาตั้ง ได้ร่วมกับพี่น้องประชาชนชาวตำบลผาตั้งจัดงานประเพณีลอยกระทง สืบสานวัฒนธรรมไทย โดยในปีนี้ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จัดประเพณีลอยกระทง สืบสานวัฒนธรรมไทย ภายใต้ชื่องาน “ฟื้นฟู สืบสาน วัฒนธรรมลำน้ำโขง” ภายในงานจัดให้มีการประกวดนางนพมาศ การแสดงของนักศึกษาเอกนาฏศิลป์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
ส่วนที่บึงพลาลาม ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายประภาส คลังชำนาญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านว่าน ได้ร่วมกับพี่น้องประชาชนชาวตำบลบ้านว่านจัดงานประเพณีลอยกระทง สืบสานวัฒนธรรมไทย ภายในงานจัดให้มีการประกวดนางนพมาศ โดยในปีนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านว่านได้รณรงค์ให้ประชาชนนำวัสดุจากธรรมชาติมาทำกระทงเพื่อเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ
ในส่วนของมหาวิทยาลัยขอนแก่นวิทยาเขตหนองคาย ได้จัดงานลอยกระทงไปแล้วเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2557 ที่ผ่านมาโดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุชา นิลประพันธ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นวิทยาเขตหนองคาย เป็นประธาน ภายในงานมีการประกวดนางนพมาศ การประกวดกระทง การแข่งขัน NKC TALENT ซีซั่น 2 การแต่งกายย้อนยุคของนักศึกษาและบุคลากร รวมทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรมอีสานของนักศึกษา

จังหวัดหนองคาย เชิญชมมหกรรมคอนเสิร์ต “เดินหน้าประเทศไทย ร่วมใจปฎิรูป”

จังหวัดหนองคาย เชิญชมมหกรรมคอนเสิร์ต “เดินหน้าประเทศไทย ร่วมใจปฎิรูป” วันเสาร์ที่ 15 พ.ย.57 ณ สนามกีฬาจังหวัดหนองคาย

นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้อนุมัติให้จัดกิจกรรม มหกรรมคอนเสิร์ตคืนความสุขให้คนในชาติ ผ่านรายการเวทีไท โดยกำหนดจัดมหกรรมคอนเสิร์ต “เดินหน้าประเทศไทย ร่วมใจปฎิรูป” ต่อไปอีก จำนวน 24 ครั้ง มีแผนดำเนินการใน 24 จังหวัด และจังหวัดหนองคาย ก็ได้กำหนดจัด ในวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2557 ณ สนามกีฬาจังหวัดหนองคาย (สนามฟุตบอลหนองคาย เอฟที)

การจัดมหกรรมคอนเสิร์ต “เดินหน้าประเทศไทย ร่วมใจปฎิรูป” มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีและสมานฉันท์ ของคนในชาติ และคืนความสุขให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะคืนวันเสาร์ที่ 15 พ.ย.57 ก็เป็นการคืนความสุขให้คนหนองคาย ตามเจตนารมณ์และนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่ง จังหวัดหนองคาย ร่วมกับ กอ.รมน.จังหวัดหนองคาย และองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย เทศบาลเมืองหนองคาย พร้อมกับหน่วยงานทุกภาคส่วน ในจังหวัดหนองคาย ร่วมกันสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อส่งมอบความสุขให้คนหนองคาย โดยมีเหล่าศิลปินจากบริษัทเวทีไทย จำกัด แกรมมี่โกลด์, อาร์สยาม, ชัวร์เอ็นเทอร์เทนเมนท์, ท็อปไลน์มิวสิค, นพพร วิลเวอร์โกลด์, รถไฟดนตรี และการแสดงพิเศษชุด “ศรีศิลป์ถิ่นอีสาน” จากวิทยาลัยนาฎศิลป์กาฬสินธุ์ ซึ่งสนับสนุนวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ สำคัญประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ รณรงค์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์, สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด, สินค้าโอท็อป-นิทรรศการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง นิทรรศการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ, ตลาดนัดแรงงาน การให้บริการด้านแรงงาน ได้แก่ การรับเรื่องราวร้องทุกข์ การให้คำปรึกษาด้านแรงงาน การรับสมัครผู้ประกันตน มาตรา 40 การรับสมัครงาน, การให้บริการซ่อม เปลี่ยนอะไหล่รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า, การให้บริการแนะนำการศึกษาและให้ความรู้, ตรวจสุขภาพทั่วไป ตรวจรักษาตา ทันตกรรมและให้ความรู้ด้านสุขภาพ, การลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร การอารักขาพืช การให้บริการด้านปศุสัตว์ การให้ความรู้เกี่ยวกับการประกอบอาชีพ, กิจกรรม “พม.สร้างพลังรักประเทศไทย อาทิ การมอบเงินช่วยเหลือราษฎรตามโครงการพระราชทาน, มอบรถวิลแชร์แก่คนพิการ, มอบทุนการศึกษา 20 ทุน การแสดงโปงลาง การจัดนิทรรศการและให้บริการตามภารกิจกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กิจกรรมปลดหนี้ ของ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. และยังมีเครื่องเล่นสวนสนุกในงานอีกด้วย

จึงขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมงานหกรรมคอนเสิร์ต “เดินหน้าประเทศไทย ร่วมใจปฎิรูป” ในวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2557 ณ สนามกีฬาจังหวัดหนองคาย (สนามฟุตบอลหนองคาย เอฟที) ได้ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป และยังสามารถรับชมการถ่ายทอดสดมหกรรมคอนเสิร์ตได้ ตั้งแต่เวลา 18.05 – 22.00 น. ทางสถานีเวทีไทย สถานีวิทยุเครือข่ายเวทีไท และชมเทปบันทึกภาพคอนเสิร์ตฯ ในเวลา 23.00 น. ทาง สทท. (NBT) หรือ ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์


มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีจัดงานบูชารอยบาทพระชินสีห์ สืบสานประเพณีลอยกระทงประจำปี 2557 ณ ลานศิษย์เก่า

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีจัดงานบูชารอยบาทพระชินสีห์ สืบสานประเพณีลอยกระทงประจำปี 2557
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน เวลา 16.00 น.ขบวนแห่กระทงของนักศึกษาทั้ง 5 คณะ นำขบวนแรกโดยองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ตามด้วยคณะวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ คณะเทคโนโลยี และคณะมนุษยศาสตร์ มีการตบแต่งขบวนด้วยดอกไม้ การแต่งกายแบบไทย การเล่นดนตรีพื้นบ้านอีสานประกอบกับการฟ้อนรำ ภายในงานมีการประกวดนางนพมาศ การประกวดกระทงสวยงาม มีการออกบูธกิจกกรมของนักศึกษาและห้างร้านต่างๆ

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สีสัน นทีโขง

หนองคาย-เทศบาลเมืองหนองคายขอเชิญเที่ยวงานลอยกระทงย้อนยุค “สีสัน นทีโขง” ระหว่างวันที่ 5-6 พ.ย. 2557
นายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย กล่าวว่า เทศบาลเมืองหนองคาย ได้จัดงานประเพณีลอยกระทง สืบสานวัฒนธรรมไทย อย่างต่อเนื่องมาหลายปี โดยได้รับความร่วมมือกับหัวหน้าส่วนราชการ ชาวบ้าน เป็นอย่างดี จนประสบความสำเร็จ ในปีนี้จึงได้จัดประเพณีลอยกระทง สืบสานวัฒนธรรมไทย ภายใต้ชื่องานลอยกระทงย้อนยุค “สีสัน นทีโขง”โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบทอดและรักษาวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นไว้ และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดหนองคาย จึงขอเชิญร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทยแห่งสายน้ำ
ในงานลอยกระทง ประจำปี 2557 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 พ.ย. 2557 ณ บริเวณวัดมีชัยท่า เขตเทศบาลเมืองหนองคาย ภายในงานจัดให้มีการประกวดนางนพมาศ การประกวดหนูน้อยนพมาศ การประกวดกระทงสวยกระทงใหญ่ กิจกรรมรำวงย้อนยุคและการแสดงบนเวทีของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลเมืองหนองคาย พร้อมอิ่มเอมไปกับความบันเทิง ในรูปแบบต่างๆ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดหนองคาย ร่วมเที่ยวชมงาน ประเพณีลอยกระทงประจำปี 2557 และร่วมลอยกระทง เพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามและรักษาสิ่งแวดล้อมของชาวหนองคาย โดยทั่วกัน

บรรพวิถี ชีวีอีสาน แหล่งโบราณคดีบ้านโคกคอน

องค์การบริหารส่วนตำบลโคกคอน แถลงข่าวการจัดงานบรรพวิถี ชีวีอีสาน แหล่งโบราณคดีบ้านโคกคอน พร้อมเปิดพิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุกว่า 2,500 ปี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งใหม่ของจังหวัดหนองคาย

เมื่อวันที่30 ต.ค. 57 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโคกคอน ตำบลโคกคอน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายบุญกร บุตรศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกคอน พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผกก.สภ.ท่าบ่อ, ดร.คำดี จันทะเกษ ผอ.ร.ร.โคกคอนวิทยาคม และคณะผู้บริหาร ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานบรรพวิถี ชีวีอีสาน แหล่งโบราณคดีบ้านโคกคอน ถวายพระพรวงศ์จักรีนฤบดินทร์ พร้อมเปิดพิพิธภัณฑ์โบราณคดีบ้านโคกคอน ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2557 ที่จะถึงนี้

นายบุญกร บุตรศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกคอน กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลโคกคอน กำหนดจัดงานแสดง แสง สี เสียง ประกอบจินตนาการเรื่อง “บรรพวิถีชีวีอีสาน แหล่งโบราณคดี บ้านโคกคอน ถวายพระพรวงศ์จักรีนฤบดินทร์” เพื่อเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชาวบ้านโคกคอน จากอดีตจนถึงปัจจุบันที่มีการค้นพบวัตถุโบราณ ซึ่งทางสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ 7 ขอนแก่น ได้นำไปพิสูจน์อายุและยุคสมัยของโบราณวัตถุและโครงกระดูกมนุษย์ พบว่า แหล่งโบราณคดีบ้านโคกคอนมีการอาศัยของมนุษย์ในอดีต 2 สมัย คือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ที่พบหลักฐานการฝังศพพร้อมโบราณวัตถุ และสมัยประวัติศาสตร์ ที่พบหลักฐานทางวัฒนธรรมสมัยล้านช้าง และสมัยทราวดี ที่มีอายุประมาณ 2,500-1,500 ปีมาแล้ว

นอกจากนั้น จะมีพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์บ้านโคกคอน ให้เป็นสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุ เพื่อให้เป็นแหล่งค้นคว้าทางประวัติศาสตร์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงโบราณคดีที่สำคัญแห่งใหม่ของจังหวัดหนองคายที่เหมาะแก่การเป็นศูนย์เรียนรู้ โดยการจัดงานครั้งนี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย การแสดง แสง สี เสียง ประกอบจินตนาการเรื่อง “บรรพวิถีชีวีอีสาน แหล่งโบราณคดี บ้านโคกคอน ถวายพระพรวงศ์จักรีนฤบดินทร์, การประกวดดนตรีพื้นบ้านอีสาน พิณ แคน โหวด , การแสดงวงโปงลางโรงเรียนโคกคอนวิทยา , การแสดงหมอลำกลอนย้อนยุค, การแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP และนิทรรศการ “วิถีชีวิตชาวบ้านโคกคอน” ซึ่งชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้านจะแต่งกายพื้นเมืองย้อนยุคเข้าร่วมกิจกรรม

สำหรับบ้านโคกคอนปัจจุบันยังมีโบราณวัตถุและโครงกระดูกมนุษย์ แต่ไม่ทำการขุดขึ้นมา จะทำการถมดินปิดไว้เพื่อรักษาเป็นสมบัติของแผ่นดิน หากชาวบ้านจะทำการขุดหรือก่อสร้างจะต้องขออนุญาตทุกครั้ง ส่วนโบราณวัตถุและโครงกระดูกมนุษย์ที่ขุดพบ ได้แก่ หินขัด หัวธนูหิน ซึ่งเป็นโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ยุคหิน ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นมนุษย์ยุคโลหะ , หม้อดินเผาลายเขียนสียุคบ้านเชียง และหม้อดินเผาแบบลายเล็บขูด ลายเชือกทาบ รวมทั้งเครื่องประดับหินแก้ว ลูกปัด และกำไล นักท่องเที่ยวหรือประชาชนที่สนใจสามารถไปเที่ยวงานนี้ได้ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ที่บ้านโคกคอน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย






วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เกษตรกรบ้านหัวทราย เริ่มปลูกมันแกว สร้างรายได้หลังน้ำโขงลด ทำเงินหมุนเวียนในพื้นที่ปีละกว่าแสนบาท

เกษตรกรบ้านหัวทรายที่อาศัยอยู่ริมโขง เริ่มปลูกมันแกว สร้างรายได้หลังน้ำโขงลด ทำเงินหมุนเวียนในพื้นที่ปีละกว่าแสนบาท
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคาท 2557 ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านหัวทราย ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงได้ปรับพื้นดินริมตลิ่งเพื่อปลูกมันแกวหรือมันเพา หลังระดับน้ำโขงลดลง ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ ทำรายได้ให้กับชาวบ้านปีละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท โดยจะขายส่งให้พ่อค้าแม่ค้าคนกลางในจังหวัดและต่างจังหวัด บางส่วนยังวางขายตามริมทาง โดยจะใช้เวลาปลูกประมาณ 3 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตออกขายได้ทันที
เกษตรกรกล่าวว่า ได้ปลูกมันแกวขายมานาน เพราะเป็นมรดกสืบทอดมาจากต้นตระกูล ช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม จะมีรายได้จากการขายมันแกวริมทางและส่งขายต่างพื้นที่มัดละ 20-100 บาท ตามขนาด หรือขายส่งกิโลกรัมละ 8 บาท โดยเฉพาะช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะขายได้ดีเป็นพิเศษ เพราะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาในพื้นที่จำนวนมาก บางรายขายได้ปีละ 5-7 หมื่นบาท ทุกปีจะมีเงินหมุนเวียนปีละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท
ซึ่งชาวบ้านจะซื้อเมล็ดพันธ์มาจากจังหวัดสระบุรี ในราคากิโลกรัมละ 300 บาท วิธีการปลูกก็ง่าย ไม่ต้องรดน้ำ ใช้วิธีการดูแลโดยฉีดพ้นโฮโมนชีวภาพ และดินบริเวณริมโขงเหมาะสมในการปลูก เพราะเป็นดินร่วนปนทราย ดินไม่แน่น ทำให้มันแกวขยายหัวได้และโตเร็ว มีรสชาติอร่อย กรอบ หวาน แตกต่างจากพื้นที่อื่น เนื่องจากดินมีความชื้น ซึ่งมันแกวที่นี่จะได้รับความนิยมนำไปจำหน่ายของพ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อจำนวนมาก และท่าหมดฤดูการปลูกมันแกว ชาวบ้านที่นี่ก็จะเริมปลูกข้าวโพด มะเขือเทศ พริก หมุนเวียนสลับกันไป สร้างรายได้ตลอดทั้งปี

เข้าสู่ฤดูหนาว ชาวบ้านที่อาศัยใกล้ริมฝั่งโขงหนองคาย เร่งปรับหน้าดินหันปลูกพืชผักสวนครัวระยะสั้น เสริมรายได้

เข้าสู่ฤดูหนาว ชาวบ้านที่อาศัยใกล้ริมฝั่งโขงหนองคาย เร่งปรับหน้าดินหันปลูกพืชผักสวนครัวระยะสั้น เสริมรายได้
ที่บริเวณริมฝั่งโขงบ้านเมืองหมีใหญ่ ตำบลเมืองหมี อำเภอเมืองหนองคาย ชาวบ้านที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำโขง ต่างเร่งปรับหน้าดิน ทำแปลงผักปลูกพืชผักสวนครัวระยะสั้นและบำรุงผักให้ทันขาย หลังราคาผักสดทุกชนิดมีราคาดีกว่าช่วงที่ผ่านมา ช่วงนี้น้ำเริ่มลดลงจึงได้เร่งปรับหน้าดินทำแปลงผัก
ชาวบ้านที่ปลูกผักริมโขงรายหนึ่ง กล่าวว่า ในช่วงนี้ราคาผักทุกชนิดมีราคาเพิ่มสูงขึ้นจึงนับว่าเป็นโอกาสดี ที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำโขงเหมาะแก่การเพาะปลูก จึงเร่งปลูกผักให้ทันขายโดยเฉพาะผักบุ้ง ผักกาดหอม และผักชนิดอื่นๆ ที่เป็นพืชระยะสั้นโตเร็วและขายง่าย คาดว่าราคาผักสดจะเพิ่มขึ้นกว่าราคาปกติ โดยตนได้ปลูกผักหลายชนิดทั้ง ผักบุ้ง ผักกาดหอม ต้นหอม ใบกระเพรา โหระพา และผักชี ทำให้มีรายได้เสริมให้กับครอบครัวเป็นอย่างดี


หนองคาย ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกครู "รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี”

จังหวัดหนองคาย ประชุมชี้แจงคณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทาน “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้า มหาจักรี” รางวัลแห่งความสำเร็จของชีวิตความเป็นครู
วันที่ 15 ตุลาคม 2557 ที่ห้องประชุม POC ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายธวัช ทองแสน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ การคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทาน “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” (Princess Maha Chakri Award) จังหวัดหนองคาย เป็นประธานการประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์และกระบวนการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับรางวัลสมเด็จพระเจ้าฟ้ามหาจักรีแก่คณะกรรมการคัดเลือกฯ จังหวัดหนองคาย ได้รับทราบ พร้อมทั้งให้คณะกรรมการเสนอความเห็น และแผนการทำงานเพื่อสนับสนุนกระบวนการทำงานการคัดเลือกระดับ พร้อมเดินหน้าประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงกลุ่มเป้าหมายทุกพื้นที่ของจังหวัดหนองคาย
“รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” (Princess Maha Chakri Award) จัดตึ้งขึ้น ในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงมีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในปี 2558 สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดตั้งรางวัลระดับนานาชาติเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระปรีชาด้านการศึกษา ที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อส่งเสริมการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนในระดับต่างๆ มาโดยตลอด โดยเฉพาะเด็กเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในท้องถิ่นห่างไกลทั่วประเทศ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตตั้งพระนามรางวัลว่า “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” หรือ Princess Maha Chakri Award และพระราชทานพระราชานุญาตให้จัดตั้ง “มูลนิธิรางวัล สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” เพื่อเป็นองค์กรหลักในการวางแผนการดำเนินงานและพิจารณารางวัล



MS NEWS - งานซ้อมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

พิธีซ้อมรับพระราชทานปริญญาบัตร

วันที่ 21 ต.ค.57 เวลา 9.00 น. ณ ห้องประชุม อาคารกิจกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี รศ.สุรพงษ์ ลือทองจักร คณบดี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ผศ.ดร.เพียร สิงห์จานุสงค์ คณบดี คณะวิทยาศาสตร์ และ ดร.สุทธิพงศ์ เปรื่องค้า คณบดี คณะเทคโนโลยี กล่าวต้อนรับบัณฑิต ในการฝึกซ้อมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร บัณฑิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ปีการศึกษา 2555 – 2556 กลุ่มแรก โดยมีบัณฑิตศิลปศาสตรบัณฑิต นิติศาสตรบัณฑิต รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต ศิลปะบัณฑิต วิทยาศาสตรบัณฑิต และเทคโนโลยีบัณฑิต จำนวน 1,600 คน เข้าร่วมการฝึกซ้อม และมีคณาจารย์ร่วมเป็นเกียรติฯ 
กลุ่มที่ 2 โดยมีมหาบัณฑิต บริหารธุรกิจบัณฑิต บัญชีบัญฑิต นิเทศศาสตร์บัณฑิตวิทยาศาสตรบัณฑิตและเทคโนโลยีบัณฑิ จำนวน 1,982 คน 
กำหนดการฝึกซ้อมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร 
บัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีนี้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 21-23 ต.ค. หลังจากที่บัณฑิตรายงานตัวเข้าห้องประชุม และคณบดีกล่าวต้อนรับแล้ว กรรมการฝึกซ้อมจะชี้แจงรายละเอียดการฝึกซ้อมฯ สาธิตการแต่งกาย ชมวีดิทัศน์พิธีพระราชทานปริญญาบัตรของบัณฑิตในปีก่อนๆ การเดินตามจุดบนเวที ฝึกซ้อมร้องเพลงสรรเสริมพระบารมี และทดลองเดินบนเวที ก่อนจะแยกย้ายกันไปซ้อมกลุ่มย่อยตามสถานที่ที่มหาวิทยาลัยฯกำหนด และจะมีการฝึกซ้อมใหญ่ โดยแต่งกายเหมือนชุดวันรับจริงในวันพฤหัสบดีที่ 23 ต.ค.นี้ และมีกำหนดการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในภาคเช้า วันที่ 26 ต.ค.ณ หอประชุม มหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
 #รับปริญญาอุดรธานี


วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สรุปบั้งไฟพญานาคที่จังหวัดหนองคาย ประจำปี 2557 อย่างไม่เป็นทางการ จากลูกแรกที่โผล่เหนือผิวน้ำที่บ้านหนองแก้ว อ.รัตนวาปี นับได้ 444 ลูก ส่วนที่ลานพญานาค อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ 10 ลูก และที่ บ้านท่าสีไค อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จำนวน 9 ลูก

หนองคาย-สรุปบั้งไฟพญานาคที่จังหวัดหนองคาย ประจำปี 2557 อย่างไม่เป็นทางการ จากลูกแรกที่โผล่เหนือผิวน้ำที่บ้านหนองแก้ว อ.รัตนวาปี นับได้ 444 ลูก ส่วนที่ลานพญานาค อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ 10 ลูก และที่ บ้านท่าสีไค อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จำนวน  9 ลูก
วันที่ 8 ตุลาคม 2557 สรุปบั้งไฟพญานาคที่จังหวัดหนองคายประจำปี 2557 จากการติดตามการรายงานผลการปรากฏขึ้นของลูกไฟจากนักวิทยุสมัครเล่นจังหวัดหนองคายที่ประจำในทุกอำเภอของจังหวัดหนองคายที่คาดว่าจะปรากฏบั้งไฟพญานาคทั้ง อ.สังคม(อ่างปลาบึก) อ.ศรีเชียงใหม่ (วัดหินหมากเป้ง) อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี พบว่า หลังจากเกิดบั้งไฟพญานาคลูกแรกเมื่อเวลา 18.19 น. ที่บ้านหนองแก้ว ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี 3 ลูก หลังจากนั้นมีบั้งไฟพญานาคทยอยพุ่งขึ้นกลางแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง
จนถึงเวลา 21.00 น. มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่อำเภอรัตนวาปี ประกอบด้วย บ้านหนองแก้ว 3 ลูก บ้านตาลชุม 116 ลูก บ้านท่าม่วง 68 ลูก บ้านโป่งสำราญ 122 ลูก หนองน้ำหนองคอน 2 ลูก หนองน้ำหนองลาด 51 ลูก บ้านนิคมเปงจาน 16 ลูก บ้านน้ำเป 50 ลูก ส่วนที่อำเภอโพนพิสัยมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่ หน้า อบต.จุมพล 9ลูก และ ต.บ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย 2 ลูก ต.หินโงม อ.เมืองหนองคาย 2 ลูกและ อ.สังคม ที่อ่างปลาบึก ต.ผาตั้ง จำนวน 3 ลูก รวมจำนวนบั้งไฟพญานาคในวันที่ 8ตุลาคม 2557 ณ ช่วงเวลา 21.00 น. จำนวน 444 ลูกส่วนในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่ลานพญานาค อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ 10 ลูก และที่ บ้านท่าสีไค อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จำนวน  9 ลูก สำหรับบั้งไฟพญานาคในปีนี้มีสีส้มอมแดง

วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ขั้นตอนในการพัฒนาระบบสารสนเทศ

1 สำรวจข้อมูลเบื้องต้น 
ผู้ใช้ต้องการหาข้อมูล แต่เกิดความยาก ซับซ้อน ในการหาข้มูลแต่ละครั้ง และข้อมูลมีมากทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสน 
งบประมาณในการใช้จ่ายค่อนข้างสู
2 วิเคราะห์ความต้องการ
ผู้ใช้ที่สนใจหรือต้องการรับทรบข้อมูลเกี่ยวกับอำเภอโพนพิสัย สามารถติดตามข้อมูลได้3ทาง Blogger Page Twitter เนื่องจากมีการอัพเดทข้อมูลอย่างรวดเร็ว 
ข้อดี ผู้ใช้สามรถรับข้อมูลได้ง่าย รวดเร็ว สะดวกสบาย
ข้อเสีย
3 ออกแบบระบบ
BloggerและPage จะอัพเดทข้อมูลสัปดาห์ละ3-4 บทคามหรือตามสถานการณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอำเภอโพนพิสัย ที่น่าสนใจในแต่ละสัปดาห์ ส่วนการอัพเดพทของTwitter อัพเดททุกวัน หรือ 7ข้อความต่อสัปดาห์
4 การจัดหาอุปกรณ์
Blogger Page Twitter แอพที่เราใช้ในการอัพเดทข้อมูล
Hardware ในการอัพเดทข้อมูลและปฏบัติงาน ใช้ Notebook Compaq เพราะเหมาะกับการทำงาน
Software เราใช้Windows7 ในการปฏิบัติงาน เนื่องจากบุคคลกรถนัดการใช้ Windows7 มากกว่าระบบปฏิบัติการอื่นๆ
5 บำรุงรักษา/การติดตั้ง/การจัดเก็บ
- การทดสอบระบบโดยวัดจาก จำนวนยอดกดไลค์ คอมเม้น เป็นต้น
- การติดตั้งระบบ ให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ติดตั้งระบบปฏิบัตการและมีการทดสอบก่อนใช้งาน
- สร้างโฟลเดอร์เพื่อการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลที่ Hardware ง่ายต่อการหาข้อมูลและง่ายต่อการนำกลับมาพัฒนา

จัดพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล นาคะเสโท “หัวใจพญานาค”

เทศบาลตำบลโพนพิสัย จัดพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล นาคะเสโท “หัวใจพญานาค”


เพื่อให้พุทธศาสนิกชนสักการบูชาช่วงเทศกาลออกพรรษา นำรายได้บำรุงพระพุทธศาสนาและศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช พิพิธภัณฑ์เมืองโพนพิสัย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ

เมื่อค่ำคืนของวันที่ 5 ตุลาคม 2557 ที่บริเวณลานพิธีวัดไทย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย นายแพทย์สรร สุนทรธนากุล นายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย เป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล นาคะเสโท “หัวใจพญานาค” โดยมีพระสงฆ์ทรงสมณะศักดิ์ จากจังหวัดหนองคาย และ สปป.ลาว 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ และพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้วยการจัดพานบายศรีรูปพญานาคตามความเชื่อของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง

การจัดพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลครั้งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่บูชา อีกทั้งเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันปฏิบัติธรรมสืบทอดพระพุทธศาสนา ส่วนรายได้จากการทำบุญและบูชาวัตถุมงคลจะนำไปใช้ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและปรับปรุงศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช พิพิธภัณฑ์เมืองโพนพิสัย ซึ่งเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการพระราชกรณียะกิจต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ อีกทั้ง เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาช่วงเทศกาลออกพรรษา เพื่อมาชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคที่วัดไทย อำเภอโพนพิสัย ในคืนวันออกพรรษา 8 ตุลาคม 2557 ได้สักการบูชาวัตถุมงคล นาคะเสโท “หัวใจพญานาค” เพื่อเป็นสิริมงคล

สำหรับพิธีในวันนี้ มีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมบวชชีพราหมณ์ ตามความเชื่อตามประเพณีท้องถิ่นจะทำให้เกิดสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัวในช่วงเทศกาลออกพรรษา จำนวน 594 คน และเพื่อปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถด้วย

วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

จังหวัดหนองคายเปิดการแสดงแสง-เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาค

เริ่มแล้วงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค จังหวัดหนองคายเปิดการแสดงแสง-เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาควันแรกอย่างอลังการ ท่ามกลางนักท่องเที่ยวเข้าชมอย่างเนื่องแน่น

เมื่อค่ำคืนของวันที่ 6 ต.ค.57 ที่บริเวณที่ราชพัสดุ ข้างวัดลำดวน อำเภอเมืองหนองคาย เทศบาลเมืองหนองคาย โดย นายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย ได้จัดการแสดงแสงเสียงเปิดตำนานบั้งไฟพญานาค ในชื่อชุด มหาพุทธบูชา นาคะประทีป นาฎนันทการ และการลอยเรือไฟบูชาพญานาค ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในงานประเพณีออกพรรษาและเทศกาลบั้งไฟพญานาค ปี 2557 มีนายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ซึ่งวันนี้เป็นการแสดงวันแรก และจะแสดงในคืนวันที่ 7 ต.ค.นี้ อีกหนึ่งวัน ทุก ๆ ปีที่ผ่านมาการแสดงชุดนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว และชาวหนองคายชมการแสดงอย่างคับคั่ง

สำหรับการจัดกิจกรรมแสงเสียงฯ ครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปทราบถึงประวัติความเป็นมาเรื่องราวความเชื่อของบั้งไฟพญานาค ปรากฏการณ์มหัศจรรย์แห่งลุ่มน้ำโขง อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดหนองคาย ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สนับสนุนส่งเสริมให้จังหวัดหนองคายเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 1 ของภาคอีสาน และเพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามของจังหวัดหนองคาย

การแสดงครั้งนี้ เป็นการแสดงครั้งที่ 17 โดยมีนักแสดง กว่า 200 คน ถ่ายทอดเรื่องราวความเชื่อที่ชาวหนองคายมีต่อบั้งไฟพญานาค ว่าเกิดจากพญานาค ซึ่งมีความศรัทธาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้พ่นลูกไฟถวายขึ้นเป็นพุทธบูชา ในขณะที่พระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อโปรดพระมารดา ในค่ำคืนวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 นอกจากนั้น ยังมีการลอยเรือไฟบูชาพญานาค กลางลำน้ำโขงด้วย





วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557

การพัฒนาการวางแผนกลยุทธ์ของ โพนพิสัยPhonPhisai

ส่วนประกอบต่างๆในตัวแบบการวางแผลกลยุทธ์
- ภารกิจ
การนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร กิจกรรม ที่เกิดขึ้นในอำเภอโพนพิสัยหรือเหตุการณ์ต่างๆในจังหวัดหนองคาย เน้นการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สถานที่พักผ่อนเป็นหลักและนำเสนอข้อเท็จริงทั้งหมดโดยผ่านทางสื่อเพจ บล็อก ทวิตเตอร์ ยูทูป
- โครงร่างของบริษัท
- การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก
จุดเด่น
1.การนำเสนอข้อมูลที่เป็นจริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
2.มีการอัพเดทข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา
3.ทุกคนทั้งชาวโพนพิสัยและพื้นที่ใกล้เคียงสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้ง่าย สะดวก สบาย มากขึ้น
จุดด้อย
1.การนำเสนอข้อมูลข่าวสารอาจมีระยะเวลาล่าช้า เพราะบางสถานการณ์ที่เกิดเหตุการณ์อยู่ห่างไกล
2.เพจ บล็อก หรือข้อมูล เกี่ยวกับโพนพิสัยมีเยอะหรือคู่แข่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
3.งบประมาณในการทำงานค่อนข้างน้อย ทำให้ภาพหรืออุปกรณ์อื่นๆไม่เอื้ออำนวย
- การวิเคราะห์กลยุทธ์และทางเลือกของกลยุทธ์
จากการพิจารณาจุดแข็ง จุดอ่อนภายในองค์กร (ได้มาจากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในองค์กร) และโอกาส อุปสรรค ภายนอกองค์กร (ได้มาจากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกองค์กร) แล้วจึงได้กำหนดกลยุทธ์ทางได้ เนื่องจากมีคู่แข่งเยอะจึงต้องทำเพจให้น่าสนใจคือ ให้ข่าวที่รวดเร็ว และถูกต้องแม่นยำ
เน้นข่าวที่หลากหลาย เช่น ข่าววัฒนธรรม ประเพณี งานรื่นเริง
ดึงดูดผู้บริโภคที่เป็นชาวบ้านทั่วไปโดยลงข่าวที่เป็นข่าวในชุมชน และเปิดโอกาสให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นหรือเป็นปหล่งข้อมูล
- วัตถุประสงค์
1.เพื่อต้องการนำเสนอ ข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ร้านอาหารอร่อยๆ ให้แก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการข้อมูลและต้องการมาเที่ยวในอำเภอโพนพิสัยและในจังหวัดหนองคาย
2.การนำเสนอข่าวสาร ที่เป็นจริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอำเภอโพนพิสัยและในจังหวัดหนองคาย ทันต่อเหตุการณ์ ทันสมัย และรวดเร็ว แก่ชาวโพนพิสัยและชาวหนองคาย หรือนักท่องเที่ยวที่สนใจ
- แผน
เดือนตุลาคม
ต้อนเดือนจะเน้นการนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับงานออกพรรษาบั้งไฟพญานาค 2557 ภายในมีกิจกรรมที่สำคัญที่จัดขึ้นโดยเขตเทศบาลเมืองและอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ในระหว่างวันที่ 5 ถึง 11 ตุลาคม 2557 ประกอบด้วยการแสดงแสง เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาค, ถนนอาหาร, การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ และการประกวดแดนซ์ซ่าหรรษา เป็นต้นและยังแนะนำข้อมูล ข่าวสาร สถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม งานบุญประเพณีที่เกิดขึ้น ในอำเภอโพนพิสัยหรือในจังหวัดหนองคาย
เดือนพฤศจิกกายน
ทั้งเดือนนำข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์ สถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม งานบุญ ประเพณีวันลอยกระทง ในอำเภอโพนพิสัยหรือในจังหวัดหนองคาย
- นโยบาย
1.เที่ยงตรง
2.รวดเร็ว
3.ทันต่อสถานการณ์
4.มีวิสัยทัศน์
- ปฏิบัติตามกลยุทธ์
1.สร้างความน่าสนใจ ความสร้างสรรค์ ความน่าเชื่อถือ แก่ผู้รับข่าวสาร
2.กระตุ้นในชาวโพนพิสัยหรือพื้นที่ใกล้เคียง นักท่องเที่ยวที่สนใจติดตามข่าวสารจากเพจ บล็อก และอื่นๆ เนื่องจากในยุคปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทหน้าที่ในการสื่อสารมากยิ่งขึ้น
3.อนาคตอาจมีการแปลเป็นภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาลาว ภาษาพม่า เพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือต่างชาติที่สนใจ สามารถศึกษาข้อมูลได้อย่างง่าย สะดวก

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

ประเพณีไหลเรือไฟ

ชาวโพนพิสัยเริ่มเตรียมอุปกรณ์ในการสร้างเรือไฟ เพื่อใช้ในงานออกพรรษาก งานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค 15 ค่ำเดือน 11 ซึ่งตรงกับวันที่ 8 ตุลาคม 2557 ประเพณีไหลเรือไฟ ป็นประเพณีของชาวอีสาน ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “เฮือไฟ” จัดขึ้นในช่วงเทศกาลออกพรรษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบูชารอยพระพุทธบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที โดยมีประวัติความเป็นมาดังนี้ กล่าวคือพระพุทธเจ้าเสด็จไปฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพญานาค พระพุทธองค์ได้แสดงธรรมเทศนาโปรดพญานาคที่เมืองบาดาล และพญานาคได้ทูลขอพระพุทธองค์ประทับรอบพระบาทไว้ ณ ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที ต่อมาบรรดาเทวดา มนุษย์ ตลอดจนสัตว์ทั้งหลายได้มาสักการะบูชา รอยพระพุทธบาท นอกจากนี้ประเพณีไหลเรือไฟยังจัดขึ้นเพื่อขอขมาลาโทษแม่น้ำที่ได้ทิ้งสิ่งปฏิกูล และเป็นการเอาไฟเผาความทุกข์ให้ลอยไปกับสายน้ำ 





งานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค จ.หนองคาย ๕-๑๖ ต.ค.๕๗

จังหวัดหนองคาย โดยเทศบาลเมืองหนองคาย เทศบาลตำบลโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย กำหนดจัดงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค ประจำปี ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๕-๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๗ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง เพื่อสืบสานจารีตประเพณีอันดีงาม “ฮีสิบสอง” โดยจะจัด ณ เทศบาลเมืองหนองคาย และ มณฑลพิธีท่าน้ำวัดไทย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย บั้งไฟพญานาค มีความเชื่อว่าพญานาคจัดขึ้นมาเพื่อเป็นพุทธบูชาต่อพระพุทธเจ้า ที่เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากที่ไปโปรดพระมารดา ในช่วงเข้าพรรษาเป็นเวลา ๓ เดือน ทั้งเมืองมนุษย์ สวรรค์ และเมืองบาดาล ต่างก็สาธุการจัดงานสมโภช ในวันออกพรรษา ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี ในปีนี้ จังหวัดหนองคาย และเทศบาลเมืองหนองคาย กำหนดจัดงานประเพณีออกพรรษาและเทศกาลบั้งไฟพญานาค ระหว่างวันที่ ๕-๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ โดยจะมีการจัดแสดงแสง เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาค ไหลกะโป๋เดือน ๑๑ การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน ฯ และที่ อ.โพนพิสัย มีการจัดงานโพนพิสัยบั้งไฟพญานาคดลก ระหว่างวันที่ ๘-๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๗ นอกจากการชมบั้งไฟพญานาคแล้ว ยังมีการแสดงรำบูชาพญานาค ประกวดธิดานาคา การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ปล่อยปลาแม่น้ำโขง ๑๐๐,๐๐๐ ตัว เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
ผู้ที่สนใจเดินทางมาชมความมหัศจรรย์ของบั้งไฟพญานาค และท่องเที่ยวในงานประเพณีเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค จ.หนองคาย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เทศบาลเมืองหนองคาย โทร. ๐๔๒-๔๒๐๕๗๔ เทศบาลตำบลโพนพิสัย โทร. ๐๔๒-๔๐๕๕๖๓-๔ ททท.สำนักงานอุดรธานี โทร. ๐๔๒-๓๒๕๔๐๖-๗ หรือที่www.tourismthailand.org ทั้งนี้ ได้มีการแถลงข่าวการจัดงาน ที่ท่าน้ำวัดไทย อ.โพนพิสัย เมื่อเย็นวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๗ และที่ สนง.เทศบาลเมืองหนองคาย เมื่อเย็นวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๗ โดยมี นายอโณทัย ธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานการแถลงข่าว รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อบจ.หนองคาย ททท.สำนักงานอุดรธานี ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย อ.โพนพิสัย เทศบาลตำบลโพนพิสัย และเทศบาลเมืองหนองคาย



วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก
จุดสุดท้าย 7. อำเภอปากคาด จ.บึงกาฬ
บริเวณริมแม่น้ำโขง ของอำเภอปากคาด เป็นจุดหนึ่งที่ชมบั้งไฟได้เป็นอันดับสองของ จ.บึงกาฬ มีถนนริมแม่น้ำโขง สามารถชมความงามของบั้งไฟพยานาคได้ยาวกว่าหนึ่งกิโลเมตร จุดนี้เป็นลักษณะโค้งน้ำโขง ทำให้ชมได้สวยงามอีกด้วย อำเภอปากคาด อยู่ห่างจาก จ.บึงกาฬประมาณสี่สิบ กิโลเมตร จุดที่ชมบั้งไฟพยานาคอยู่กลางเมืองเลยครับ ที่พักในตัวอำเภอมีทั้งรีสอร์ท และ โรงแรมขนาดเล็ก

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก
จุดที่ 6. อำเภอ บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ
อำเภอนี้ มีจุดชมสองจุดคือ บริเวณริมแม่น้ำโขง และอีกจุดคือบริเวณบึงโขงหลง เป็นหนึ่งให้จุดที่มีผู้พบเห็นบั้งไฟพยานาคได้
เป็นจุดหนึ่งที่ชมบั้งไฟ ที่ไม่ได้อยู่แม่น้ำโขง จุดที่ชม คือบริเวณหาดคำสมบูรณ์ เป็นแหล่งพักผ่อนคลายร้อย มีกิจกรรมทางน้ำมากมาย

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก
จุดที่ 5. อ.เมือง จ.บึงกาฬ
บ้านอาฮง ต.หอคำ อ.เมือง จ.บึงกาฬ คือ บริเวณแก่งอาฮง และ วัดอาฮงศิลาวาส
จุดนี้เป็นจุดที่ชมบั้งไฟได้มากที่สุดในจังหวัดบึงกาฬ

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก
จุดที่4. อำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
จุดนี้ชมได้ที่ วัดหินหมากเป้ง วัดที่สร้างบนโขดหินริมแม่นำ้โข
วัดนี้เคยเป็นวัดของ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี พระสงฆ์สายพระป่า หลวงปู่มั่น

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก
จุดที่3. อำเภอสังคมบริเวณ จุดชม อ่างปลาบึกบ้านผาตั้ง อำเภอสังคม เป็นจุดที่มีภูมิประเทศสวยงาม
มีโขดหินน้อยใหญ่ กลางน้ำโขง มีที่พักหลากหลายรูปแบบ แต่เป็นจุดที่ไกลจากห่างจาก อ.เมือง 95 กม.

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก
จุดที่2. อำเภอ รัตนวาปีเป็นจุดที่พบว่ามีบั้งไฟขึ้นมาที่สุด มาหลายปีเลยทีเดียว
รัตนวาปี มีจุดชมบั้งไฟหลายจุด แต่จุดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือบริเวณบ้านนำ้เป ซึ่ง ติดกับ พุทธอุทยานนานาชาติ ที่กล่าวไปข้างต้น จุดนี้เป็นจุดที่มีการทำถนนริมแม่น้ำโขง สามารถชมบั้งไฟได้ตลอดลำน้ำ มีที่พักในบรรยากาศ โฮมสเตย์ มีจุดจอดรถหลายจุด เช่น โรงเรียนบ้านน้ำเป บรรยากาศวิถีชาวบ้าน

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก

7จุดชมบั้งไฟพญานาคที่ดีที่สุดในโลก
จุดที่1 อำเภอโพนพิสัย จ.หนองคายเป็นจุดชม ที่มีชื่อเสียงที่สุด เดินทางได้สะดวก อยู่ไม่ไกลจากตัวจังหวัดอ.โพนพิสัย มีจุดชมหลายจุดครับที่แนะนำจุดแรก คือ บริเวณพุทธอุทยานนานาชาติเป็นจุดที่เมื่อสองปีก่อน มีการบันทึกว่าพบบั้งไฟพญานาคมากที่สุดท จุดนี้เองเป็นจุดที่มีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา มีการปล่อยโคม

เชิญเที่ยวงานเทศกาล " บั้งไฟพญานาคโลกและประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2557 "

เชิญเที่ยวงานเทศกาล " บั้งไฟพญานาคโลกและประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2557 " ระหว่างวันที่ 8-16 ตุลาคม 2557 นี้ 
World Naga Fireball Festival 2014

วัดปัจจันตบุรี บ้านแดนเมือง

ศิลาจารึกวัดแดนเมือง 1 อยู่ที่วัดปัจจันตบุรี บ้านแดนเมือง ตำบลวัดหลวง อำเภอโพนพิสัย จารึกอักษรไทยน้อยรุ่นแรก พระยาปากเจ้า เจ้าเมืองปากลายเป็นผู้สร้าง เมื่อปี พ.ศ. 2073 มีความว่าพระยาปากห้วยหลวงได้สร้างวัดแดนเมือง และกล่าวถึงพระยานคร เจ้าเมืองโคตรบอง (นครพนม) ว่าได้เคยมาครองเมืองปากห้วยหลวง ได้กล่าวถึงบ้านสับควายห้วยแดนเมืองซึ่งเป็นชุมชนใหญ่

วัดปัจจันตบุรี โพนพิสัย

ศิลาจารึกวัดแดนเมือง 2 อยู่ที่วัดปัจจันตบุรี จารึกอักษรไทยน้อย เมื่อปี พ.ศ. 2078 เป็นพระบรมราชโองการของสมเด็จพระโพธิสาร แห่งอาณาจักรล้านช้าง แต่งตั้งให้พระยาแสนสุรินทราชัยไกรเสนาธิบดี พระยากลางกรุงราชธานีเป็นประธานในการฟื้นฟูพระศาสนา และให้หมื่นใต้ หมื่นเหนือ และราชบัณฑิตนันกุมารเป็นข้าหลวงต่างพระเนตรพระกรรณไปสำรวจชำระ พระวินัยสงฆ์ในพระอารามต่าง ๆ ในเมืองจันทบุรี และสอดส่องให้สมณชีพราหมณ์ให้เคร่งครัดในพระวินัย พร้อมทั้งให้ดูแลวิสุงคามสีมา เรือกสวน ไร่นา ข้าโอกาสของวัดวาอาราม ห้ามมิให้ใครไปยึดครอง

ร้านคอฟฟี่ คาเฟ่

ร้านคอฟฟี่ คาเฟ่ 
หนึ่งในร้านอาหารที่แนะนำว่าอร่อย เป็นร้านอาหาร+ร้านกาแฟสด เบเกอรี่ บริเวรลานจอดรถ ตลาดสด ชอเจริญ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย โทร.0908561171


หลวงพ่อพระเสี่ยง

หลวงพ่อพระเสี่ยง

วัดมณีโคตร ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
หลวงพ่อพระเสี่ยง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตัก ๘ นิ้ว สูง ๒๔ นิ้ว หนักประมาณ ๑๐๐ กิโลกรัม เป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่มากองค์หนึ่ง
ตามประวัติความเป็นมา หลวงพ่อพระเสี่ยง เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่กษัตริย์ล้านช้างสร้างขึ้นให้เป็นพระเสี่ยงทายประจำเมือง และใช้เป็นพระเสี่ยงทายในโอกาสเสด็จขึ้นครองราชย์ หรือมีเหตุการณ์สำคัญ ในโอกาสต่าง ๆ กาลต่อมาเมื่อมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น และเพื่อความปลอดภัย จึงได้อัญเชิญมาจากอาณาจักรล้านช้าง ในคราวเดียวกันกับการอัญเชิญหลวงพ่อพระสุก พระเสริม พระใส และประดิษฐานไว้ที่วัดมณีโคตร อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เพื่ออัญเชิญเข้าสู่เมืองหลวงของสยามประเทศ โดยอัญเชิญพระเสี่ยงขึ้นบนหลังช้าง ซึ่งพระเสี่ยงได้แสดงอภินิหาร ให้ช้างหนักจนไม่สามารถเดินทางไปได้ แล้วตกลงจากหลังช้าง เป็นเหตุให้พระกรรณบิ่น พระเกศคด ชาวเมืองจึงเชื่อว่า วัดมณีโคตรน่าจะเป็นสถานที่ประดิษฐานถาวร จึงได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ที่นี่ ตั้งแต่บัดนั้นจวบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ประเพณีเกี่ยวกับหลวงพ่อพระเสี่ยง ตรงกับงานเทศกาลตรุษสงกรานต์วันที่ ๑๓ เมษายนของทุกปี และงานบุญบั้งไฟ ในวันเพ็ญเดือน ๖ ของทุกปี ถือเป็นประเพณีที่สำคัญของชาวอำเภอโพนพิสัยปฏิบัติสืบกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ หลวงพ่อพระเสี่ยงเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองโพนพิสัย ที่ผู้คนให้ความเคารพกราบไหว้ขอพรอย่างสม่ำเสมอไม่ขาดสาย จนเป็นส่วนหนึ่งของคำขวัญที่ว่า “หลวงพ่อพระเสี่ยงแสนศักดิ์สิทธิ์สายโลหิตหล่อเลี้ยงอีสาน ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค”

สวนสาธารณะวัดหนองเรือคำ

สวนสาธารณะวัดหนองเรือคำ
“สวนสาธารณะวัดหนองเรือคำ” ตำบลโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เป็นสถานที่พักผ่อน เป็นสถานที่ออกกำลังกาย ซึ่งมีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่นให้กับผู้แวะเวียนเข้ามา เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 19.00 น.